กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และเครือข่ายพันธมิตร 29 หน่วยงาน ขยายความร่วมมือการจัดการขยะอาหารด้วยแฟลตฟอร์มออนไลน์บนเว็บไซต์ FoodWasteHub.com เพื่อเป็นศูนย์กลางให้ความรู้และแนวทางการจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืน
นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานประกาศความร่วมมือเครือข่ายแพลตฟอร์มเผยแพร่นวัตกรรมการจัดการขยะอาหาร ระหว่าง นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และ นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เดินหน้าขยายความร่วมมือการจัดการขยะอาหารด้วยแฟลตฟอร์มออนไลน์บนเว็บไซต์ FoodWasteHub.com พร้อมร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษารวม 29 หน่วยงาน เผยแพร่ความรู้และแนวทางการจัดการด้านขยะอาหาร โดยงานวิจัยฝีมือคนไทยและกรณีศึกษาเพื่อการนำขยะอาหารกลับมาใช้ประโยชน์ สนับสนุนหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนและนโยบาย BCG อย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับแผนการจัดการขยะอาหารของประเทศไทย (พ.ศ. 2566-2573) และแผนปฏิบัติด้านการจัดการขยะอาหาร ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2566-2570) ด้วยแนวทางการจัดการที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัด ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการกำจัดขยะ และเพิ่มอัตราการรีไซเคิลของประเทศ ซึ่งแพลตฟอร์มการเผยแพร่นวัตกรรมการจัดการขยะอาหาร หรือ Food Waste Platform เปิดตัวครั้งแรกในปี 2567 ภายใต้ชื่อเว็บไซต์ www.FoodWasteHub.com เป็นศูนย์กลางให้ความรู้และแนวทางการจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืน ที่มีข้อมูลทั้งภาษาไทยและอังกฤษ มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 24,000 ครั้ง จากคนไทยและต่างชาติมากกว่า 10 ประเทศ สำหรับปีนี้ได้เพิ่มผลงานวิจัยและข้อมูลที่สำคัญ เช่น สถานการณ์ขยะอาหารในระดับโลก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย ทั้งในด้านระเบียบ กฎหมาย และกรณีศึกษาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศ รวมทั้ง ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปริมาณและองค์ประกอบขยะอาหารจากแหล่งกำเนิดในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายและมาตรการที่เหมาะสม รวมถึง แนวทางการจัดการขยะอาหารสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่นำไปปรับใช้ได้จริง
ด้าน นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ปัญหาขยะอาหารไม่ใช่แค่เรื่องของเสีย แต่เป็นเรื่องของทรัพยากรที่สูญเปล่า ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ดังนั้น ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ งานวิจัย และแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถนำไปใช้ได้จริง แล้วยังแนวทางสำคัญสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดของเสีย และสร้างสังคมที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เชื่อว่า Food Waste Platform จะเป็นศูนย์กลางที่ช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่อนาคตที่ขยะอาหารไม่ใช่ภาระ แต่เป็นโอกาสสร้างความยั่งยืนร่วมกัน
ที่มาภาพ/ข้อมูล อ่านบทความทั้งหมดได้ที่ : https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/1080074/?bid=2
