นางเจนธิชา ชัยชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ (สศท.12) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมการเกษตรสมัยใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิต และสนับสนุนการผลิตที่ยั่งยืน ซึ่งการปลูกข้าวแบบ “ตัดตอซัง” ถือเป็นแนวทางหนึ่งที่สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว โดยช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงโครงสร้างดิน รักษาความชุ่มชื้นในแปลงนา เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อน BCG Model ในภาคการเกษตร ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม
สศท.12 ลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ณ ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านวังแดง หมู่ 17 ตำบลทุ่งทราย อำเภอทรายทองวัฒนา จังหวัดกำแพงเพชร โดยมี นายเสมอ นาคเมือง เกษตรกรต้นแบบและประธานศูนย์ฯ ได้นำแนวทางการปลูกข้าวแบบตัดตอซังจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเครือข่ายเกษตรกรมาช่วยพัฒนาแนวทางการผลิตข้าวให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยใช้แนวทางนี้ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 5 ปี บนพื้นที่ 40 ไร่ สำหรับการปลูกข้าวแบบตัดตอซัง นิยมปลูกในรอบฤดูการทำนา (รอบที่ 2) ช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตจากการทำนา (รอบที่ 1) นายเสมอจะลงตัดตอซังต้นข้าวตามหลังรถเกี่ยวข้าวทันทีเพราะฟางที่ยังสดจะนิ่ม ตัดง่าย และช่วยให้กระจายคลุมดินได้อย่างทั่วถึง โดยใช้รถไถต่อพ่วงกับเครื่องตัดตอซัง (เครื่องตัดหญ้า) ฟางที่ถูกกระจายจะคลุมดินสม่ำเสมอ ส่วนในพื้นที่เปียกจะใช้ล้อโหย่งติดตั้งกับรถไถ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์จมดินหรือทำให้แปลงนาเสียหาย ซึ่งฟางข้าวที่กระจายอยู่จะช่วยรักษาความชื้นและป้องกันการงอกของวัชพืช ทั้งนี้ ข้าวตัดตอซังมีความแข็งแรง ไม่ค่อยพบโรคเชื้อรา และไม่ต้องใช้ยาฆ่าหอย เนื่องจากไม่มีการหว่านต้นกล้าใหม่ หอยเชอรี่ ไม่สามารถกัดกินต้นข้าวที่แข็งแรงจากตอเดิมได้ ซึ่งพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมในการเพาะปลูก คือ กข 85 และ กข 41
ที่มาภาพ/ข้อมูล อ่านบทความทั้งหมดได้ที่ : https://www.agrinewsthai.com/news/208188