นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม คาดการณ์ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมปีนี้ ปรับตัวที่ดีขึ้น ร้อยละ 2.0-3.0 ทั้งในสาขาพืช สาขาปศุสัตว์ สาขาประมง สาขาบริการทางการเกษตร และสาขาป่าไม้ กระทรวงฯจึงได้มีการปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจ ด้าน “อุตสาหกรรมและธุรกิจด้านการเกษตร” มุ่งสู่เกษตรอุตสาหกรรม เกษตรบริการ รวมถึงเกษตรสร้างสรรค์ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของผู้บริโภค อาทิ การแสวงหาแหล่งอาหารใหม่ ความตระหนักในภาวะทางสุขภาพอีกทั้งยังมีการนำโมเดลการทำเกษตรกรรมไปใช้กับการท่องเที่ยว การสร้างสรรค์สินค้านวัตกรรม และแรงหนุนจากภาครัฐที่มียุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบ BCG สร้างเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ร่วมมือกับ 60 สถานประกอบการด้านเกษตรอุตสาหกรรมใน 6 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี เสริมความรู้การทำธุรกิจเกษตรให้กับชุมชนรอบโรงงาน พร้อมมอบโจทย์ให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ นำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ ที่สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจและสร้างมูลค่าได้จริง โดยตั้งเป้าว่าในแต่ละจังหวัดจะมีคนในชุมชนเข้าร่วมโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า 60 ราย และจะมีการคัดเลือก 30 สุดยอดไอเดียไปต่อยอดดำเนินการให้เกิดเป็นสินค้าและบริการที่สามารถสร้างมูลค่าได้จริง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นผู้ประกอบการ – เกษตรกรรายย่อยก็ยังคงต้องเผชิญกับความผันผวนหลายประการ อาทิ ต้นทุนด้านพลังงาน การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และการควบคุมสินค้าบางประเภท รวมถึงการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตและการตลาด การแบ่งปันเทคโนโลยีจากรายใหญ่สู่รายเล็ก ตลอดจนการรวมกลุ่มในรูปแบบคลัสเตอร์เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มการเข้าถึงโอกาสจากธุรกิจเครือข่ายที่จะสร้างธุรกิจเกษตรที่เข้มแข็งขึ้นในชุมชน
ที่มาข้อมูล : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230301132023138