นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรกะปิกุ้งแท้เกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพและรสชาติของผลิตภัณฑ์แปรรูปกะปิกุ้งแท้เกาะลันตา นำภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่นมาพัฒนาต่อยอดสูตรจนได้สูตรมาตรฐาน ใช้วัตถุดิบกุ้งเคยแท้ๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ ผสมผสานกับวิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และทันสมัย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง สะอาด ถูกสุขลักษณะ จนได้รับเครื่องหมาย อย. (เลขที่ 81-2-01455-2-0001) การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) และเครื่องหมายฮาลาล นอกจากนี้ทางกลุ่มยังมีการพัฒนาไลน์สินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กับมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้แก่ ซอสกะปิ และน้ำปลาหวาน เพื่อเพิ่มรายได้ และด้วยคุณภาพของกะปิที่โดดเด่น จึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้า OTOP ของเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ มีผลการประเมินศักยภาพของวิสาหกิจชุมชน 7 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับดี และมีผลการประเมินความสามารถในการดำเนินธุรกิจโดยรวมอยู่ในระดับ A นั่นคือ กิจการมีสภาพคล่องทางการเงินสูง มีความสามารถในการสร้างรายได้มากกว่า 1 เท่าของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีอยู่ การใช้สินทรัพย์ให้เกิดผลตอบแทนมีประสิทธิภาพ และกิจการมีความสามารถสูงในการทำกำไรจากยอดขายอยู่ในระดับที่ดี (อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร 44.333 %)
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรกะปิกุ้งแท้เกาะลันตา ดำเนินการแปรรูปกุ้งเคยเป็นกะปิกุ้งแท้เกาะลันตา โดยเริ่มต้นจากการจำหน่ายในพื้นที่ และได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากหน่วยงานภาคีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ในการเสริมสร้าง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ และมีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้นเพื่อสร้างการยอมรับ และเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ซึ่งผู้บริโภคมีแนวโน้มต้องการผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มมีกำลังในการผลิตเฉลี่ย 6 ตันต่อเดือนเพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค มีกำลังการผลิต 5,000 – 10,000 กระปุกต่อเดือน ซึ่งผลิตภัณฑ์ 1 ตัน จะแบ่งบรรจุได้ 2,000 กระปุก จำหน่ายกระปุกละ 55 บาท สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเป็นเงิน 250,000 – 300,000 บาทต่อเดือน มีต้นทุนในการผลิตต่อกะปิ 1 ตัน อยู่ที่ 77,000 บาท แบ่งออกเป็นต้นทุนวัตถุดิบ 45,000 บาท ต้นทุนแรงงาน 30,000 บาท และต้นทุนในการผลิต 2,000 บาท มีกำไรสุทธิ 1,410,362 บาท ในปี 2565 และ 1,188,559 บาท ในปี 2566 ปัจจุบันได้มีการขยายตลาดและกระจายสินค้าออกสู่ตลาดหลากหลายช่องทาง ทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งสำนักงานเกษตรอำเภอเกาะลันตา ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ผลักดันผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเข้าสู่ช่องทางเว็บไซต์ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com เพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้แก่กลุ่มอีกช่องทางหนึ่ง
ที่มาภาพ/ข้อมูล: รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://doaenews.doae.go.th/archives/23704