วันนี้ 22 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์สารสนเทศยางพารานครพนม สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นางสาวสายสุณี ปั้นพงษ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดการประชุมบริหารจัดการ การผลิตและการตลาดสินค้าสับปะรด ระดับจังหวัด ติดตามสถานการณ์ผลผลิตต่อเนื่อง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม บริษัทไปรษณีย์ไทย จังหวัดนครพนม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม สำนักงานเกษตรอำเภอโพนสวรรค์และท่าอุเทน ผู้แทนกลุ่มแปลงใหญ่สับปะรดตำบลนาใน และกลุ่มแปลงใหญ่สับปะรดตำบลโนนตาล โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม เป็นเลขาคณะทำงาน เพื่อติดตามสถานกาณณ์ผลผลิตและการส่งเสริมการผลิตสับปะรดของสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่
นางสาวสายสุณี ปั้นพงษ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม กล่าวว่า สำหรับการประชุมคณะทำงานในวันนี้ มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อการติดตามสถานการณ์ผลผลิตของสับปะรดในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอท่าอุเทน และอำเภอโพนสวรรค์ ซึ่งถือเป็นพื้นที่หลักที่มีการปลูกสับปะรด ปัตตาเวีย รวมทั้งหารือถึงแนวทางการส่งเสริมและปัญหาจากการส่งเสริมการผลิตสับปะรดของเจ้าหน้าที่ จากสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ เพื่อบริหารจัดการผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค จังหวัดนครพนม มีเป้าหมายในการพัฒนาสับปะรด ด้วยแนวทางการขับเคลื่อน แบบ BCG Model ที่ในปี 2567 ผลผลิตของสับปะรดที่ได้รับมาตรฐาน GAP จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ต่อปี มูลค่าของสับปะรดเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5 ต่อปี มูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้จากสับปะรด ร้อยละ 2 ต่อปี และการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จากสถานการณ์ผลผลิตสับปะรดจังหวัดนครพนม จากข้อมูลสรุปสภาวการณ์ผลิตพืช ประจำปี 2565 จังหวัดนครพนม มีพื้นที่ปลูกสับปะรด 5,188 ไร่ พื้นที่เก็บเกี่ยว 5,149 ไร่ ผลผลิต 21,499 ตัน/ปีผลผลิตเฉลี่ย 4,144 ไร่ เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด ประมาณ 507 ครัวเรือน ราคาผลผลิต ประมาณ 10 – 12 บาท/กิโลกรัม
นายสุขสันต์ พรรณวงษ์ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่สับปะรดตำบลโนนตาล เปิดเผยว่า สำหรับในปีนี้อยู่ในช่วงฤดูกาลผลผลิตออกจำหน่าย โดยปีนี้ผลผลิตสับปะรดไม่ออกพร้อมกันเหมือนในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผลผลิตเกิดการกระจุกตัวและมีปริมาณมาก ราคาผลผลิตก็ต่ำ แต่ในปีนี้ถือเป็นโอกาสดีของพี่น้องชาวสวนสับปะรดที่สับปะรดมีผลผลิตที่ออกเป็นรุ่นๆ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีมากถึง 3 รุ่น ทำให้ผลผลิตเกิดการกระจายตัวไม่กระจุก ทำให้ราคาในท้องตลาดสูง เป็นที่พอใจของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนสับปะรดในปีนี้
ที่มาภาพ/ข้อมูล : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230622170438257