นายกรัฐมนตรี เปิดงานอุตสาหกรรมแฟร์ ต่อยอดผลสำเร็จของโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม เสริมทักษะการประกอบธุรกิจ ให้สามารถพึ่งพาตัวเองและมีอาชีพใหม่ คาดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
กระทรวงอุตสาหกรรม จัดงานใหญ่แห่งปี อุตสาหกรรมแฟร์ ภายใต้แนวคิด “ซื้อของไทย ใช้ของดี สร้างอาชีพ เสริมธุรกิจที่ดีพร้อม” เพื่อต่อยอดผลสำเร็จของโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม ด้านการเสริมทักษะในการประกอบธุรกิจ ให้สามารถพึ่งพาตัวเองและมีอาชีพใหม่ พร้อมทั้งระดมสุดยอดผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกว่า 1,200 ราย นำสินค้าดี มีคุณภาพ ราคาถูก เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน ตลอดจนการเปิดตลาดไอเดียสำหรับประชาชนเพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจที่มั่นคง ตั้งแต่วันนี้(1ธ.ค.65) – 4 ธันวาคม 2565 ณ อาคารเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 9 – 12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะวิกฤติ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ที่ผ่านมารัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาและการฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในทุกด้านอย่างเป็นระบบ เพื่อบรรเทาผลกระทบและเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจฐานรากที่จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ด้วยการมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนา “คน” ที่เป็นประชาชนในระดับท้องถิ่นและชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานและกลไกสำคัญของการพัฒนาประเทศ ด้วยการเสริมทักษะและฝึกอาชีพแก่ประชาชนให้สามารถพึ่งพาตัวเองและมีรายได้ มีอาชีพใหม่ ให้เกิดความเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป
สำหรับการจัดงานอุตสาหกรรมแฟร์ “ซื้อของไทย ใช้ของดี สร้างอาชีพ เสริมธุรกิจที่ดีพร้อม” เป็นการจัดงานครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ซึ่งต่อยอดและขยายผลโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นการสะท้อนภาพความสำเร็จของการนำนโยบายสำคัญของรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมที่ทำให้ประชาชนมีความรู้และทักษะใหม่ในการประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับลักษณะพื้นที่และภูมิปัญญาของคนในชุมชนที่สามารถนำไปต่อยอดได้จริง ช่วยให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืนและเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ รวมถึงช่วยผลักดันให้ภาคเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวกลับมาสู่สภาวะปกติต่อไปได้
ด้าน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนา “ชุมชนดีพร้อม” และการพัฒนา “คน” ที่เป็นประชาชนในระดับท้องถิ่นและชุมชน ผ่าน “กลไก 7 วิธี ปั้นชุมชนดีพร้อม” ได้แก่ แผนชุมชนดีพร้อม คนชุมชนดีพร้อม แบรนด์ชุมชนดีพร้อม ผลิตภัณฑ์ชุมชนดีพร้อม เครื่องจักรชุมชนดีพร้อม ตลาดชุมชนดีพร้อม และเงินทุนหมุนเวียนดีพร้อม ซึ่งหนึ่งในกลไกข้างต้น กระทรวงอุตสาหกรรมเห็นว่า “คน” เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในก้าวแรกที่จะพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง ด้วยการเสริมทักษะและฝึกอาชีพแก่ประชาชนในรูปแบบการฝึกอบรมระยะสั้น เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองและมีรายได้ มีอาชีพใหม่ ผ่านโครงการ “พัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม”
โดยที่ผ่านมาสามารถพัฒนาทักษะอาชีพให้กับกลุ่มเป้าหมายไปแล้วกว่า 600,000 คน ในกว่า 2,100 พื้นที่ และกำลังดำเนินการเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนั้น อีกหนึ่งกลไกที่มีความสำคัญ คือ การพัฒนาตลาดชุมชนดีพร้อมให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งในการพัฒนา “ตลาดชุมชนดีพร้อม” กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเลือกที่จะใช้งานอุตสาหกรรมแฟร์ “ซื้อของไทย ใช้ของดี สร้างอาชีพ เสริมธุรกิจที่ดีพร้อม” เป็นเครื่องมือทางการตลาดให้กับชุมชน
ภายในงาน มีโซนต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่
1.โซนนิทรรศการ โดยมีการจัดแสดงต้นแบบชุมชนดีพร้อม เทคโนโลยีและนวัตกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การยกระดับเกษตรอุตสาหกรรมและโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG) การส่งเสริมและพัฒนา Startup ผ่านกลไก ดีพร้อมฮีโร่ รวมถึงการเขียนโค้ดโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์ด้วยภาพที่เหมาะสำหรับการเรียนการสอนของเด็ก การแสดงเครื่องจักรเกษตรอุตสาหกรรม การใช้อุปกรณ์ VR เพื่อการเรียนรู้ระบบลำเลียงสินค้า Karakuri และการจัดแสดงผลงานจากหน่วยงานภาคี
2. โซนฝึกอาชีพ โดยจะมีการจัดฝึกอาชีพในด้านต่าง ๆ ตลอดทั้ง 4 วัน อาทิ การทำอาหาร ออกแบบผลิตภัณฑ์
3. โซนปรึกษาแนะนำ การดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ และการบริการด้านการเงิน และ
4. โซนจำหน่ายสินค้า กว่า 1,200 ร้านค้า ที่ได้คัดสรรสินค้าดี มีคุณภาพ นำมาจำหน่ายในราคาถูก เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย สมุนไพร ของใช้ ของตกแต่งบ้าน และ Food Truck นอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับการเลือกซื้อสินค้าแล้ว ยังมีการจัดสัมมนาถ่ายทอดองค์ความรู้และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งเป็นการเปิดตลาดไอเดียสำหรับประชาชนที่ผ่านการฝึกทักษะอาชีพดีพร้อมที่จะเข้ามาเดินชมงานเพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจที่มั่นคงเป็นของตนเอง
การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการไทย และยังเป็นการฉายแววผู้ประกอบการธุรกิจใหม่ในชุมชนที่มีความโดดเด่นอีกด้วย โดยคาดว่าตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน จะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 200,000 คน และมีเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ที่มาภาพ/ข้อมูล : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG221201152653225