นางเตือนใจ สมวงษ์ เกษตรกรรักษ์โลกของอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการติดตามข่าวการประชุมเอเปค 2022 ของประเทศไทย มีการถอดรหัสข้าวรักษ์โลก BCG โมเดลเทรนด์กระแสแห่งอนาคต ไม่มีปุ๋ยเคมี สารเคมี ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ว่ารู้สึกดีใจอย่างมากที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการเพาะปลูกพืชแบบไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ซึ่งในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 นี้ตนก็จะเริ่มปลูกข้าวแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม BCG และฟื้นฟูวิถีการปลูกข้าวแบบดั้งเดิมของชาวเกาะสมุย บนเนื้อที่ 6 ไร่ โดยใช้ข้าวสายพันธุ์หอมมะลิดำสุรินทร์ และข้าวไรซ์เบอรรี่ เป็นสายพันธุ์ที่เหมาะกับพื้นที่ ส่วนวิธีการปลูกจะไม่ใช้สารเคมีแต่จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตจากเศษอาหาร พืชผักจากครัวเรือนและชุมชนต่างใส่ในนาแปลงข้าวเป็นปุ๋ย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวได้
นางเตือนใจ สมวงษ์ กล่าวต่อว่า แปลงนาข้าวเกษตรอินทรีย์ของตน จะเป็นแปลงนาข้าวช่วยลดต้นทุนการผลิต เอื้อต่อสภาพแวดล้อมเพราะไม่ใช้สารเคมีหว่านลงดิน ที่จะทำให้ดินตาย สัตว์ในระบบนิเวศน์อยู่ไม่ได้ เกษตรกรผู้ปลูกก็จะได้รับอันตรายจากสารเคมี แต่จะหันไปใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้ต้นพืช ต้นข้าว กุ้งหอย ปูปลาในนาข้าวได้อยู่เกื้อกูลกันในระบบนิเวศน์ เป็นแปลงนารักษ์โลก แปลงนาที่ช่วยลดโลกร้อนได้อย่างเป็นรูปธรรม“รู้สึกดีใจที่ทุกประเทศให้ความสำคัญกับการปลูกพืชแบบ BCG ที่จะช่วยลดโลกร้อน”
อย่างไรก็ตาม แปลงนาข้าวที่จะหว่านดำที่ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติได้ไปศึกษาวิถีชีวิตวัฒนธรรมการทำนาแบบดั้งเดิมของชาวเกาะสมุยอีกด้วย
ที่มาภาพ/ข้อมู : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG221115170054370