ผู้ว่าฯกระบี่ประชุม กรอ.เพื่อพัฒนา และแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ เสนอแนะ แนวทาง มาตรการในการแก้ไขปัญหา และ อุปสรรคทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของเอกชน เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
วันที่ 31 มกราคม 2566 ที่ห้องประชุมพนมเบญจา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและ แก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดกระบี่ หรือ กรอ. จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานหอการค้าภาคใต้ ประธานหอการค้ากระบี่ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ ประธานสภาการศึกษาจังหวัดกระบี่ ผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นายกสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่และคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ร่วมประชุม
ในการประชุมครั้งนี้ที่ประชุมได้ติดตามการดำเนินงานตามมติ ครม.สัญจร จังหวัดกระบี่และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พังงา ระนองและสตูล) มี 5 ประเด็น 10 โครงการ ได้แก่
1. โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสารท่องเที่ยวปากคลองจิหลาดรองรับการเข้าถึงระบบขนส่งอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมตามมาตรฐานสากล (Friendly Design) จังหวัดกระบี่ งบประมาณ 35 ล้านบาท ได้ผู้รับจ้างและดำเนินงานงวดที่ 1 แล้ว
2. โครงการพัฒนาแหล่งสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อนคลองท่อมเมืองสปา จังหวัดกระบี่ งบประมาณ 49 ล้านบาท ผลการดำเนินงานได้ผู้รับจ้างแล้ว
3. ANDAMAN GO GREEN จังหวัดกระบี่เป็นพื้นที่นำร่องในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy:BCG Model) เพื่อสร้างต้นแบบในการขับเคลื่อนและขยายผลไปสู่จังหวัดอื่น ๆ ในอันดามัน และจัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model ผลการดำเนินงานได้มีการประชุมครั้งแรกแล้ว
4. การยกระดับและพัฒนาศักยภาพศูนย์สั่งการและระบบการแพทย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันทางสสจ.กระบี่/รพ.กระบี่เสนอของบกลุ่มจังหวัดป 2567
5. การพัฒนาอุตสาหกรรมมารีน่า ในพื้นที่คลองปากหรา คลองตลิ่งชันและคลองยวนเร่งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าและศูนย์ซ่อมบำรุงเรือยอร์ช ผลการดำเนินงาน เจ้าท่าภูมิภาคกระบี่ได้ลงพื้นที่สำรวจออกแบบร่องน้ำคำนวณระยะทางจุดวางเครื่องหมายการเดินเรือแล้ว และทกจ.กระบี่ แจ้งมติที่ประชุม สป.ทก. ให้ขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant Visa “B”ซึ่งเป็นวีซ่าที่ออกให้กับผู้ทีประสงค์จะเดินทางไปยังประเทศไทยเพื่อทำงาน ติดต่อธุรกิจ
6.การพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและยางพารากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งระบบแบบยั่งยืน และแผนพลังงาน (สนพ.)กำหนดนโยบายการรับซื้อไฟฟ้า โดยให้มีการรับซื้อไฟฟ้าจากวัสดุเหลือใช้จากโรงสกัดน้ำมันปาล์มมาเป็นพลังงานทางเลือกเป็นการเฉพาะ เช่น ทะลายปาล์มกะลาปาล์ม ก๊าชชีวภาพจากน้ำเสีย เป็นต้น มาผลิตกระแสไฟฟ้า ผลการดำเนินงานอยู่ระหว่างการดำเนินการ
7.การส่งเสริมการเลี้ยงแพะและแปรรูปผลิตภัณฑ์แบบครบวงจรตามมาตรฐานอาหารฮาลาล งบประมาณ 34 ล้านบาท โดยส่งเสริมการเลี้ยงในสวนยางและสวนปาล์มน้ำมันแบบแพะแปลงใหญ่ เสริมความมั่นคงทางอาหาร ผลการดำเนินงานอยู่ในช่วงการสำรวจเกษตรกร ขณะนี้ได้ 22 กลุ่มและจะเร่งดำเนิการให้ครบตามเป้าหมาย
8.โครงการยกระดับศูนย์วิจัยและบริการวิชาการภูมิภาคอันดามันจัดการเรียนการสอนและวิจัย ในระดับบัณฑิตศึกษาการพัฒนาศักยภาพ การจัดการด้านการเกษตรและพลังงาน ทางกระทรวง อว.ได้บรรจุ 3 โครงการ งบประมาณ 109 ล้าน ผลการดำเนินงาน สำนักงานที่ดินกำลังทำการรังวัดพื้นที่
9. เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางบก ทางน้ำ ระบบรางและอากาศ (MultimodalTransportation) เพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝังอันดามันให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งทางทะเล (AndamanMaritime Hub) ทาง สนข.ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ปี 64-66 ทำกรอบการพัฒนายุทธศาสตร์และแผนการลงทุนการพัฒนาโครงข่ายการ
คมนาคมและระบบโลจิสติกส์เชื่อมโยงกับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภายใต้กรอบ GMS เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
10. การยกระดับสนามบินนานาชาติกระบี่เป็น Cargo Hub อยู่ในระหว่างการดำเนินการหาผู้รับจ้าง ซึ่งต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน
10. การก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปา (Reverse Osmosis : RO) เกาะพีพี อำเภอเมืองกระบี่ อยู่ระหว่างการจัดสรรงบประมาณโครงการศึกษา
พื้นที่เกาะพีพีของ สทนช.
ทางด้านนางสาววิชชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา ได้นำเสนอให้ที่ประชุมได้แก้ช่วยกันดูแลปัญหาเรื่องขยะและน้ำเสีย แหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยวและรักษาสภาพแวดล้อมที่สวยงามของจังหวัดกระบี่
นายภาสกร บุญญลักษม์ กล่าวว่า ปกติ กรอ.จังหวัดกระบี่ จะประชุมกัน 2 เดือน/ครั้ง แต่หากทางภาคเอกชนมีข้อหารือเร่งด่วนก็สามารถประชุมได้ก่อน พร้อมที่จะช่วยสนับสนุนแก้ปัญหาและชอบที่จะทำงานร่วมกับภาคเอกชนและโครงการใดก็แล้วแต่ที่จะทำหรือของบพัฒนาเราต้องมีความพร้อมก่อนและสามารถรองรับโครงการดังกล่าวได้เมื่อโครงการสำเร็จแล้ว
ที่มาภาพ/ข้อมูล : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201091202015