นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จังหวัดลำพูนมีเกษตรกรผู้ปลูกลำไย จำนวน 52,947 ราย พื้นที่ปลูก 362,375 ไร่ คาดการณ์ผลผลิตในปี 2567 จำนวน 384,608 ตัน แบ่งเป็นลำไยในฤดู ร้อยละ 68 และลำไยนอกฤดู ร้อยละ 32 กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดลำพูนได้ส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพมาตรฐาน GAP เพื่อสร้างความแตกต่างด้านคุณภาพสินค้าเกษตรและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในการผลิตลำไยเพื่อการส่งออก ทำให้มีกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจนเป็นผู้ประกอบการเกษตรต้นแบบในการบริหารจัดการสินค้าอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1) แปลงใหญ่ลำไย หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ซึ่งมีความโดดเด่นด้านการบริหารจัดการสินค้าการเกษตร ด้วยการคัดคุณภาพสินค้าสู่ตลาดสินค้าพรีเมี่ยม และแปรรูปผลผลิตเพื่อสร้างเพิ่มมูลค่า เช่น ลำไยฟรีซดราย มะม่วงมหาชนกฟรีซดราย ลำไยสอดใส้สตรอเบอร์รี่ฟรีซดราย กัมมี่มะม่วง และ 2) แปลงใหญ่ลำไย ตำบลป่าซาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน มีความโดดเด่นเรื่องการเชื่อมโยงการตลาด โดยเฉพาะสินค้าลำไยเข้าสู่ Modern Trade อาทิ แมคโคร โลตัส และเชื่อมโยงการตลาดกับสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีการแปรรูปผลผลิตลำไย เช่น ลำไยอบแห้งทั้งเปลือก ลำไยอบแห้งสีทอง เครื่องดื่มน้ำลำไยชนิดผง และลำไยอัดแท่ง เป็นต้น
ปัจจุบันจังหวัดลำพูนมีเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ได้รับรองมาตรฐาน GAP แล้ว จำนวน 14,339 ราย พื้นที่ 110,956.13 ไร่ นอกจากนี้ จังหวัดลำพูนยังได้เตรียมการบริหารจัดการผลผลิตลำไยจังหวัดลำพูน ปี 2567 โดยคาดการณ์ความต้องการแปรรูปผลผลิตลำไย อยู่ที่ร้อยละ 65 (น้ำลำไยเข้มข้น/ลำไยกระป๋อง ร้อยละ 2.60 และแปรรูปเป็นลำไยอบแห้ง ร้อยละ 62.40) และความต้องการบริโภคสด อยู่ที่ร้อยละ 35 (ตลาดในประเทศร้อยละ 8 และตลาดส่งออกร้อยละ 27) ซึ่งจะช่วยทำให้บริหารจัดการผลผลิตลำไยของเกษตรกรไม่ให้เกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดได้
ที่มาภาพและข้อมูล อ่านทั้งหมดได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_8169234