Search
Close this search box.

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกับ จ.กระบี่ และ บ.มิตซูบิชิประเทศไทย และภาคีเครือข่าย ร่วมลงนาม MOU โครงการ “The Study for the Roadmap of Krabi Carbon Neutral Tourism”

share to:

Facebook
Twitter

วันที่​ 18​ มกราคม​ 2567​  ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย รศ.ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) Mr.Hiroyasu Sato (มร.ฮิโรยาสุ ซาโต้) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิตซูบิชิ ประเทศไทย จำกัด

 รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถการแข่งขันของประเทศ ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ประธานอนุกรรมการแผนงานกลุ่มการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข. ผศ.อนพัทย์ หนองคู ผู้ประสานแผนงานกลุ่มการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข. นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ และนายสมเกียรติ ขยันการ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอ่าวนาง ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ The Study for the Roadmap of Krabi Carbon Neutral Tourism 2040 Project เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ให้เป็นรูปธรรมภายในปี 2040 โดยมีผู้บริหารภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน ตลอดจนตัวแทนของบริษัท มิตซูบิชิ จำกัดสำนักงานใหญ่ประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน

รศ.ดร.ศิวฤทธิ์​ พงศกร​รัง​ศิลป์​ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ม.วลัยลักษณ์ กล่าวว่า​ ม.วลัยลักษณ์เข้ามาร่วมขับเคลื่อนงานวิจัยด้านการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน เพื่อร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ก้าวสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวคุณภาพที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือ บพข. ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแนวทางการท่องเที่ยวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด การพัฒนาพุน้ำร้อนเค็มคลองท่อมที่นำไปสู่การเป็นเมืองสปาทาวน์ต้นแบบที่ได้รับอนุมัติตามมติครม. การพัฒนาแบรนด์การท่องเที่ยวสีเขียว การพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม การพัฒนาการท่องเที่ยวคุณค่าสูง ซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี และแผน 5 ปีด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ มาจนสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2566  มวล. ได้ร่วมกับ 22 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ด้านการท่องเที่ยวระดับประเทศและจังหวัดกระบี่ได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกความร่วมมือ ประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนจังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2583 เป็นจังหวัดแรกของประเทศไทยด้วย

“ผมขอขอบคุณ บพข. ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณวิจัยในการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่เสมอมา​ และในวันนี้บริษัท มิตซูบิชิ ประเทศไทย จำกัดได้เข้ามามีส่วนร่วมผลักดันด้วย​ จะนำไปสู่การใช้องค์ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ของแต่ละภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนโครงการอย่างเป็นรูปธรรม​ ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนด Roadmap และมีการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป”

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า “นับตั้งแต่การประกาศปฏิญญากระบี่ในปี 2556 ทุกภาคส่วนได้ร่วมกับกำหนดและขับเคลื่อน ทำให้การท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่มีการเติบโตอย่างมีทิศทาง ซึ่งการมุ่งเน้นไปที่การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำที่เป็นฐานสำคัญของการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ สอดคล้องกับสังคมโลกที่ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กระบี่จึงให้ความสำคัญกับการร่วมดำเนินการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการพัฒนาการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดการท่องเที่ยว และการรักษาจุดยืนในการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญเป็นการต่อยอดยุทธศาสตร์และวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้แนวคิด เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy”

การลงนามบันทึกความร่วมมือในวันนี้จะเป็นอีกก้าวที่สำคัญที่พวกเราชาวกระบี่ จะมีพันธมิตรที่มีองค์ความรู้ เครื่องมือ และประสบการณ์ในการผลักดันให้บรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนได้ตามเป้าหมาย ซึ่งการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์จะเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงทรัพยากรทั้งองค์ความรู้ ประสบการณ์ เครื่องมือ เทคนิควิธีการจากองค์กรระดับประเทศสู่การขับเคลื่อนจังหวัดกระบี่ในการเป็นเมืองท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ค.ศ. 2040 ต่อไป”ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่  กล่าวในตอนท้าย

สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ The Study for the Roadmap of Krabi Carbon Neutral Tourism 2040 มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันศึกษาการสร้างโรดแมพคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ จัดกิจกรรมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ รวมทั้งการสร้างความร่วมมือในอนาคต เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดกระบี่บรรลุเป้าหมายการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2040  ซึ่งบันทึกข้อตกลงดังกล่าว มีระยะเวลา 3 ปี

ที่มาภาพและข้อมูล / สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/41193/?bid=1