
ช่วงหลัง ๆ นี้ ถ้าใครได้ยินหน่วยงานรัฐหรือนักวิชาการพูดถึงเกษตร มักจะมีคำว่า “BCG” โผล่ขึ้นมาเสมอ หลายคนสงสัยว่ามันคืออะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับสวนเล็ก ๆ ของเรา?
BCG ย่อมาจาก Bio-Circular-Green Economy หรือ “เศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน – เศรษฐกิจสีเขียว”
ฟังดูไกลตัว แต่ความจริงคือ “วิธีคิดใหม่” ที่ทำให้เกษตรกรอยู่รอดในยุคตลาดโลกเปลี่ยนไป
📍 Bio – ชีวภาพ: คือการใช้สิ่งมีชีวิตมาทดแทนสารเคมี เช่น ใช้จุลินทรีย์ควบคุมโรคพืชหรือแมลงบางชนิด ซึ่งช่วย “ลดต้นทุนค่าสารเคมีลงได้ประมาณ 10–20%” ต่อฤดูกาล และยังทำให้ดินดีขึ้นในระยะยาว
📍 Circular – หมุนเวียน: คือการเอาของเหลือกลับมาใช้ใหม่ เช่น เศษพืช ใบไม้ หรือกิ่งไม้ ทำปุ๋ยหมักเองได้ ช่วย “ลดต้นทุนค่าปุ๋ยลงได้ปีละหลายพันบาท” โดยเฉพาะถ้าทำต่อเนื่อง หรือเอาเศษไม้มาใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ลดค่าเชื้อเพลิงได้ส่วนหนึ่ง
📍 Green – สีเขียว: คือการทำเกษตรที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่เผา ไม่ใช้สารเคมีเกินจำเป็น ซึ่งไม่เพียงแค่ “ลดต้นทุนค่าจัดการและค่าปรับ” แต่ยังเปิดโอกาสให้ขาย “คาร์บอนเครดิต” เป็นรายได้เสริมเล็ก ๆ ได้ด้วย
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเกษตรกร? เกี่ยวเต็ม ๆ ครับ เพราะทุกวันนี้ “ตลาดใหญ่” อย่างยุโรป ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ห้างค้าปลีกในไทย ก็เริ่มตั้งเงื่อนไขแล้วว่า จะรับซื้อเฉพาะสินค้าที่ผลิตตามแนวทาง BCG เท่านั้น มี GAP อย่างเดียวไม่พออีกแล้ว ถ้ายังเผาในสวนก็หมดสิทธิ์ขาย ถ้าไม่มีระบบหมุนเวียนของเหลือก็ถูกลดราคา ถ้าใช้สารเคมีเกินก็ถูกตัดสิทธิ์
ในทางกลับกัน ถ้าเกษตรกรเริ่ม “คิดและทำแบบ BCG” สวนเล็ก ๆ ก็กลายเป็นธุรกิจที่โตได้ เช่น
✅ ใช้จุลินทรีย์แทนสารเคมี ลดค่าใช้จ่ายได้ 10–20%
✅ ทำปุ๋ยหมักเอง ลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้หลายพันบาทต่อปี
✅ ไม่เผาเศษวัสดุ ขายคาร์บอนเครดิตเป็นรายได้เสริม
✅ เข้าสู่ตลาดพรีเมียม ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไป 20–30%
BCG จึงไม่ใช่คำหรู ๆ จากภาครัฐ แต่มันคือ “แนวทางเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และเปิดตลาด” ของเกษตรกรยุคใหม่ เพราะวันนี้ตลาดไม่ได้ถามว่า “คุณปลูกอะไร” แต่ถามว่า “คุณปลูกอย่างไร” 🌿
📌 สรุปให้สั้นที่สุด
BCG = ใช้ธรรมชาติให้คุ้ม → หมุนเวียนทุกอย่าง → ทำแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เกษตรกรที่ปรับตัวตาม BCG จะมี “ต้นทุนที่ต่ำลง – รายได้ที่เพิ่มขึ้น – โอกาสตลาดที่กว้างขึ้น”
นี่แหละคือเหตุผลที่ทั้งโลกพูดถึง BCG…เพราะมันไม่ใช่แค่แนวคิด แต่มันคือ “ทางรอด” ของเกษตรกรในยุคใหม่

ที่มาภาพ/ข้อมูล : https://www.agrinewsthai.com/slide/228248


