นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึง นโยบายและแผนงานในภาพรวมของการกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ ช่วง 3 ปีที่เหลือของอายุรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่า จะเน้นใน 2 เรื่องสำคัญ
เรื่องแรก คือ เกษตรมูลค่าสูง โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรผลิตสินค้าคุณภาพ และให้ได้ราคาที่สูงขึ้น จะไม่เน้นในเรื่องปริมาณเพียงอย่างเดียว
“การเกษตรจากนี้ไปไม่อยากทำเรื่องปริมาณอย่างเดียว เราอยากจะได้เรื่องคุณภาพ เรื่องราคาที่สูงขึ้น และท้ายที่สุดราคาที่สูงขึ้นต้องไปสู่พี่น้องประชาชน ไปสู่เกษตรกร ไม่ใช่ราคาที่สูงขึ้นตกอยู่กับพ่อค้าคนกลางหรือผู้ส่งออกเท่านั้น ตรงนี้คือเป้าหมายสำคัญที่อยากจะแก้ไขและผลักดัน”
ทั้งนี้มีรายละเอียดอีกมากที่ต้องมาคุยกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะแก้อย่างไรได้บ้าง เพราะต่อให้เกษตรกรเพิ่มคุณภาพ ผลิตสินค้าเกษตรพันธุ์ดี ๆ แล้ว แต่ยังถูกกดราคาและกำไรไปอยู่กับพ่อค้าคนกลางก็ไม่เกิดประโยชน์ เรื่องเกษตรมูลค่าสูง เป็นเรื่องแรกที่ตั้งใจจะทำ
เรื่องที่สอง คือเรื่องเกษตรยั่งยืน และเป็นไปตามเทรนด์ของโลก ทั้งในส่วนของเกษตรกร และภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มุ่งเน้นตามแนวทาง BCG Model คือ Bio (เศรษฐกิจชีวภาพ) Circular (เศรษฐกิจหมุนเวียน) และ Green (เศรษฐกิจสีเขียว) และต้องปฏิบัติตามกฎหมายสากล ที่เวลานี้ประเทศคู่ค้าหลักได้เพิ่มเงื่อนไขทางการค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเข้มงวดในเรื่องสินค้าที่จะส่งไปจำหน่ายต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายป่า ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ หากเป็นภาคประมงก็ต้องไม่ทำลายทรัพยากรในท้องทะเล
ดังนั้นกระทรวงเกษตรฯจะมุ่งเน้นไปที่ยางพาราก่อน ซึ่งเวลานี้จากการติดตามความคืบหน้าล่าสุด มีเกษตรกรได้ลงทะเบียนผู้ปลูกยางไปแล้วประมาณ 14 ล้านไร่เศษ จากพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 19 ล้านไร่ หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 75% คิดเป็นปริมาณยางพาราประมาณ 3.5 ล้านตัน ที่มั่นใจได้ว่าสามารถทำได้ตาม EUDR ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการส่งออก
แหล่งที่มาข้อมูล / อ่านทั้งหมดได้ที่ : https://www.thansettakij.com/business/trade-agriculture/608980