นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้นำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ลงพื้นที่ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ พบหารือกับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการสินค้ากาแฟ ชา และสับปะรด ในจังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจสถานการณ์การผลิตและการค้า รวมถึงการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ขยายตลาดส่งออก ซึ่งเชียงราย ถือเป็นแหล่งปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะกาแฟและชา ที่ปลูกมากที่สุดในไทย รวมทั้งยังเป็นประตูการค้าเชื่อมโยงกับ สปป.ลาว เมียนมา และจีน จึงมั่นใจว่าหากผู้ประกอบการได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ จะสามารถใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างแต้มต่อทางการค้าได้มากขึ้น เนื่องจากคู่ค้า FTA ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่จากไทยแล้ว
นางสาวบุณิกา กล่าวว่า ได้พบหารือกับวิสาหกิจชุมชนกาแฟยอดดอยปางขอน อ.เมืองเชียงราย กาแฟดอยช้าง หญ่าโย คอฟฟี่ (YAYO Coffee) อ.แม่สรวย ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิก้าเกรดพรีเมี่ยม กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกชาดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง ผู้ผลิตชาออร์แกนิกคุณภาพ และวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกสับปะรด อ.เมืองเชียงราย ผู้ผลิตสับปะรดภูแลและนางแล ที่ได้รับเครื่องหมายส่งออกไปตลาดจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ พร้อมทั้งยังได้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ สับปะรดอบแห้ง คุกกี้สอดไส้สับปะรด น้ำสับปะรด และซอสพริกสับปะรดภูแล โดยสินค้าในครั้งนี้ ถือเป็นสินค้าที่ได้รับมาตรฐานรับรอง GAP และได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมีความสนใจ ที่จะขยายตลาดส่งออกสินค้าศักยภาพ แต่ยังมีข้อจำกัดและอุปสรรคในบางเรื่อง โอกาสนี้ กรมฯ ได้ให้คำแนะนำเรื่องกฎระเบียบทางการค้า โอกาสการส่งออกไปตลาดการค้าเสรี การรักษาคุณภาพมาตรฐานและการเพิ่มมูลค่าสินค้า การแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เน้นผลิตสินค้า BCG และสินค้าเพื่อสุขภาพ เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภครุ่นใหม่และสอดรับกับเมกกะเทรนด์ พร้อมรับฟังปัญหาข้อเสนอแนะจากเกษตรกรและผู้ประกอบการ เพื่อนำไปดำเนินการการแก้ไขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
