Search
Close this search box.

จังหวัดชลบุรี เปิดงานสัมมนาให้ความรู้ แนวทางขับเคลื่อน BCG จังหวัดชลบุรี การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และกฎหมายการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว

share to:

Facebook
Twitter

ที่ห้องประชุมแสนสุข 3 โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดงานสัมมนาให้ความรู้ แนวทางขับเคลื่อน BCG จังหวัดชลบุรี การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และกฎหมายการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว โดยมี นางสาวอังศุมาลิน ฉัตรสุวรรณวารี อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี คณะกรรมการขับเคลื่อน BCG Model ด้านอุตสาหกรรม, ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี, หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมงาน

สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ ประกอบด้วย กิจกรรม BCG Talk ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้แทนจากหน่วยงานและสถาบันชั้นนำ อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก มหาวิทยาลัยบูรพา สถาบันไทย-เยอรมัน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย บริษัท REDEX จำกัด และ บริษัท ไอ ที แอล เอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มาร่วมให้ความรู้และเสวนาการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของโรงงานอุตสาหกรรมไทยด้วยมาตรการ BCG

จากนั้น ช่วงบ่าย เป็นการอบรมให้ความรู้การสมัครขอรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และกฎหมายว่าด้วยการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วและการใช้งานระบบการอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ ISingleForm โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี

ด้าน นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีและกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมขับเคลื่อน BCG Model ด้านอุตสาหกรรม ของจังหวัดชลบุรี จึงได้จัดการสัมมนาให้ความรู้ แนวทางขับเคลื่อน BCG จังหวัดชลบุรี การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และกฎหมายการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดชลบุรี ร่วมกันขับเคลื่อน BCG Model ผ่านการสนับสนุนการได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมและยกระดับศักยภาพในภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดชลบุรีให้เป็นต้นแบบของภาคอุตสาหกรรมระดับประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปสู่ระดับโลกอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนต่อไป

 

 

ที่มาข้อมูล/อ่านทั้งหมดได้ที่ : https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/121675/?bid=1