Search
Close this search box.

กรุงศรี-MUFG’ ร่วมจัดงาน สุดยอดการประชุมสัมมนา ESG หนุนธุรกิจโตยั่งยืน

share to:

Facebook
Twitter

Krungsri-MUFG ESG Symposium สุดยอดการประชุมสัมมนา ESG โดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก พาธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนสู่ความยั่งยืน โดยงานสัมมนาจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 67 ภายในงานได้จัดเป็น 2 เวทีสัมมนาใหญ่ แนวคิด Net Zero World และ Transition in Action

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำของโลก จัดสัมมนาใหญ่ Krungsri-MUFG ESG Symposium สุดยอดการประชุมสัมมนา ESG โดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก รวมพลังสร้างอนาคตพาธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและการสนับสนุนความยั่งยืน ตามแนวทาง ESG โดยงานสัมมนาได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2567 ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ

นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวในหัวข้อ “การขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero” ว่า ปัจจุบันเหตุการณ์ต่างๆ ของโลกไม่เป็นอย่างที่คิด อุณหภูมิโลกสูงขึ้นทุกปี กรุงศรีได้ให้ความ

สำคัญในเรื่องของโลกร้อน ถือเป็นต้นน้ำที่ช่วยให้การเปลี่ยนผ่านการ ดี-คาร์บอนไนเซชันของไทย จากเวที COP28 ประเทศไทยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะปัจจุบันยังไม่สามารถมีข้อยุติลดปริมาณการใช้ฟอสซิลแต่สิ่งที่ทำได้คือการเพิ่มการใช้พลังงานทางเลือกพลังงานหมุนเวียนอีก 3 เท่า เพื่อให้ถึงเป้าหมายปี ค.ศ. 2030 ในการเพิ่มพลังงานสะอาด 30@30 ที่มาจากการใช้พลังงานหมุนเวียน 30%

ส่วนเรื่องของการเงินนั้น แต่ละประเทศได้เสนอให้เงินสนับสนุนต่อประเทศที่กำลังพัฒนาเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านเอ็นเนอจี้ ทรานซิชั่น เนื่องจากแต่ละประเทศมีความสามารถในการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่แตกต่างกัน โดยนโยบายของประเทศไทยถือว่ามีความชัดเจนตามเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ปีค.ศ. 2050 และ Net zero ปี ค.ศ. 2065 ตามตั้งเป้าการปล่อยคาร์บอนที่ 222 ล้านตัน ในปี 2030 โดยลดการปล่อยในประเทศเฉลี่ย 30% และได้รับความช่วยเหลือต่างประเทศ ในรูปแบบทวิภาคี รวมถึงการแลกเปลี่ยนคาร์บอนระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณามาตรฐานการแลกเปลี่ยน

นายสุทธิเกตติ์ ทัดพิทักษ์กุล รองเลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวในหัวข้อ “การเดินหน้าของอุตสาหกรรมไทยตามกลยุทธ์และการส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอน” ว่า ปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน และสิ่งแวดล้อม บีโอไอได้ปรับบริบทและเครื่องมือส่งเสริมการลงทุนให้เข้ากับบริบทที่เกิดขึ้น

สำหรับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แต่ละประเทศต่างมีมาตรการรองรับ บีโอไอได้ให้ความสำคัญเรื่องกรีน อีโคโนมี กว่า 10 ปีที่ผ่านมา โดยปีค.ศ. 2009-2021 สนับสนุนเงินด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มชึ้นจาก 1.4 พันล้านดอลลาร์ ไปจนถึง 7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีการเติบโตของตลาดจาก 7% เป็น 10% โดยสินค้าที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมจะเป็นที่น่าจับตา ทั้งในส่วนของกรีน อุตสาหกรรม พลังงาน การผลิต การขนส่งและสังคม

การสนับสนุนด้านพลังงาน จะเร่งออกเกณฑ์ค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (UGT) โดยจะเริ่มใช้ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ผ่าน 2 ช่องทาง เพื่อให้มีผลกับการลงทุน โดยส่งเสริมธุรกิจเพาเวอร์แพลน ที่เน้นซื้อพลังงานสีเขียว จากตัวเลขของนักลงทุนที่สนใจพบว่า มีกิจการที่ลงทุนถึง 1,932 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีค.ศ. 2022 ภาคอุตสาหกรรม ถือว่ามีความหลากหลาย ทั้งเกษตร และไบโอแมส ซึ่งภายใต้อุตสาหกรรมเหล่านี้ถือเป็นกลุ่มเกษตร ชีวภาพที่อยู่ภายใต้บริบท BCG

 

ที่มาภาพและข้อมูลอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bangkokbiznews.com/environment/1130437