จากการพัฒนาตามนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ร่วมกับผลการพัฒนาภายใต้ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ เพื่อมุ่งตอบโจทย์การเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี และการเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรแบบครบวงจรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Go Green) ด้วย BCG Model ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลุ่มแปลงใหญ่กาแฟบ้านป๊อก ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ เกษตรกรมีการผลิตและกำหนดมาตรฐานอย่างเข้มงวด จนสามารถยกระดับการผลิตกาแฟคั่วปกติ เป็น”กาแฟดริป” และ “กาแฟปรุงสำเร็จบ้านป๊อกชนิดฟรีซดราย” เพื่อเพิ่มมูลค่าและโอกาสทางการค้า อีกทั้งชุมชนยังร่วมกันบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับรางวัล “การพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูงคาร์บอนต่ำและยั่งยืน ระดับดีเยี่ยม”
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรสร้างเอกลักษณ์สินค้าเกษตรท้องถิ่น โดยมีกลุ่มแปลงใหญ่หลายแห่งประสบความสำเร็จ สามารถสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มแปลงใหญ่กาแฟบ้านป๊อก ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ในปี 2561 และได้รับการส่งเสริมการพัฒนาตามแนวทางของโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีการนำผลผลิตกาแฟกะลา มาแปรรูป เป็น “กาแฟคั่ว” เพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งมีทั้งกาแฟคั่วอ่อน กาแฟคั่วกลาง และกาแฟคั่วเข้มจำหน่ายทั้งแบบเม็ดและแบบบด และเพื่อให้กับเข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน กลุ่มจึงได้ต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็น “กาแฟดริป” ช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และยังได้ยกระดับการผลิตกาแฟคั่วปกติ เป็นกาแฟผงพร้อมชง ด้วยการใช้เทคโนโลยี Freeze Dry ที่เป็นการถนอมอาหารและแปรรูปเพิ่มมูลค่า โดยที่คุณค่าสารอาหาร รสชาติ กลิ่นของอาหารนั้นยังคงถูกรักษาไว้ได้อย่างดี ได้เป็น “กาแฟปรุงสำเร็จบ้านป๊อกชนิดฟรีซดราย (Freeze dry coffee process)” โดยร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอแม่ออน สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ (Fin) ในการร่วมพัฒนา และทดสอบผลิตภัณฑ์ ซึ่งกาแฟปรุงสำเร็จนี้มีความสะดวกในการพกพา ซึ่งบรรจุในซองฟอยด์ จำนวน 10 ซอง ซองละ 3 กรัม ทำให้ยังคงคุณค่า รสชาติ กลิ่นของกาแฟบ้านป๊อกที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ในราคาเพียงกล่องละ 150 บาท
“กาแฟบ้านป๊อก” ปลูกด้วยความเอาใจใส่ของเกษตรกร จากผลกาแฟสีแดงสด (กาแฟเชอรี่) ที่อยู่บนต้น นำมาผ่านกระบวนการแปรรูปที่หลากหลายขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้มาซึ่งเมล็ดกาแฟกะลาที่มีคุณภาพดี นำมาผ่านกระบวนการคั่วอย่างประณีต และใส่ใจ เกิดเป็น “กาแฟคั่วบ้านป๊อก” ที่มีลักษณะเฉพาะทั้งรสชาติและกลิ่น ซึ่งจะมีอัตลักษณ์เป็นกาแฟ Specialty คือมีรสชาติกลมกล่อมและคุณภาพดี ให้รสสัมผัสคล้ายช็อคโกแลต มีกลิ่นหอมของดอกไม้ป่า ธัญพืช พืชตระกูลเบอรี่ และเสาวรส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกาแฟบ้านป๊อก เป็นการยกระดับคุณภาพ สร้างความน่าสนใจและโอกาสเข้าสู่ตลาด Premium ได้มากยิ่งขึ้น
ที่มาภาพ/ข้อมูล: รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://doaenews.doae.go.th/archives/23399