เชื่อมความสัมพันธ์ไทย – ซาอุฯ อีอีซี รับคณะหอการค้ามณฑลริยาด ซาอุฯ ในรอบ 32 ปี เร่งเครื่องสร้างโอกาสลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมเชื่อมต่อนักลงทุนไทยจับคู่ธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ผลักดันให้เกิดการลงทุนร่วมกันอย่างยั่งยืน
คณะหอการค้ามณฑลริยาด จากซาอุฯ ได้มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี หลังจากความสัมพันธ์ ทางการทูตไทย-ซาอุฯ ได้กลับสู่ระดับปกติ นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนซาอุฯ อย่างเป็น ทางการเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา
ซึ่งได้สร้างโอกาสทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี กระชับความสัมพันธ์ของประชาชน ทั้งสองประเทศ กระตุ้นด้านการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากซาอุฯ เดินทางมาประเทศไทยต่อเนื่อง สร้างรายได้ภาค การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพื่อฟื้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ทางซาอุ ฯ สนใจ เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัลนวัตกรรมขั้นสูง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมอาหารและแปรรูป อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า EV ที่จะขับเคลื่อนบริบทเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG เป็นต้น รวมทั้ง จะเป็นอีกกลไกสำคัญ เพื่อจูงใจนักลงทุนจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ให้เข้าสู่พื้นที่ EEC เพิ่มขึ้น และช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนทั่วโลกต่อเนื่อง
ซึ่งจะส่งเสริมการขับเคลื่อนแผนการลงทุนในพื้นที่ EEC ระยะ 2 ในอีก 5 ปีข้างหน้า (2565 – 2569) ที่ตั้งเป้าหมายการลงทุนรวม 2.2 ล้านล้านบาท มีมูลค่าการลงทุนใน EEC เพิ่มขึ้นประมาณ 400,000 ล้านบาท/ปี (จากเดิม 300,000 ล้านบาท/ปี) เป็นกลไกหลักผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตเต็มศักยภาพ 4.5 – 5% ต่อปี พร้อมส่งผลให้ไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ก้าวสู่ประเทศพัฒนา และคนไทยมีรายได้สูงขึ้นได้ในปี 2572
ทั้งนี้ สอดคล้องกับสาขาความร่วมมือ 9 ด้านที่นายกรัฐมนตรี ได้หารือขณะเยือนซาอุดีอาระเบียไว้ ประกอบด้วย 1. การท่องเที่ยว 2. พลังงาน 3. แรงงาน 4. ความมั่นคงทางอาหาร 5. สุขภาพ 6. ความมั่นคง 7. การศึกษาและศาสนา 8. การค้าและการลงทุน และ 9. กีฬาและวัฒนธรรม
ที่มาข้อมูล : https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/pfbid02xy2dgqhcxzQgGp88YZn28mgqUZXyVqvBFyYMExPXaPfRC2N8YSFmuz8enscftBrsl