ในอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ เป้าหมายเรื่องการลดคาร์บอนยังคงเป็นเรื่องสำคัญ แต่สำหรับกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG: Consumer Packaged Goods) แนวโน้มของธุรกิจนี้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มกำไรและผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นมากขึ้น ภายใต้แรงกดดันจากนักลงทุน หลายองค์กรจึงลดความสำคัญของการลงทุนด้านความยั่งยืนลง
โดยแนวคิดข้างต้นนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านการนำเสนอดิจิทัลโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์การปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่ความยั่งยืน ระบุชัดเจนว่านี่อาจเป็นความเข้าใจผิดที่ว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง “ความยั่งยืน” หรือ “ผลกำไร” ทั้งที่จริงแล้ว ทั้งสองปัจจัยสามารถดำเนินไปพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเพื่อแสดงให้เห็นถึงเหตุผลสนับสนุนข้อเท็จจริงข้างต้น ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เผยแพร่บทความเรื่อง “ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เน้น 3 การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจ CPG เติบโตอย่างยั่งยืนและมีกำไร” โดยระบุชัดเจนถึง 3 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจ CPG สามารถสร้างทั้งผลกำไรควบคู่ไปกับความยั่งยืน ได้แก่ การใช้พลังงานไฟฟ้า (Electrification) การทรานส์ฟอร์มด้วยดิจิทัล (Digital Transformation) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circularity) แต่ละปัจจัยส่งผลต่อความยั่งยืนและความสามารถในการทำกำไรอย่างไร
โดยนิยามของ CPG: Consumer Packaged Goods คือ สินค้าที่อยู่ในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์สำหรับอุปโภค บริโภคทั่วๆไปที่ใช้ในทุกๆ วัน ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องมีการเปลี่ยนหรือเติมสินค้าเป็นประจำ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า ยาสูบ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน โดยทั่วไปแล้วจะเป็นสินค้าที่มีอายุใช้งานค่อนข้างสั้นและมีวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างรวดเร็ว บรรจุภัณฑ์ของ CPG นั้นจึงจำเป็นต้องทำให้ผู้บริโภคสามารถระบุและจดจำได้ง่าย
1. พลังงานไฟฟ้าพลังงานแห่งอนาคต
การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเป็นสิ่งจำเป็น แต่สำหรับกระบวนการผลิตอาหารที่ใช้พลังงานสูง เช่น การต้มและการอบ การเปลี่ยนจากพลังงานก๊าซมาเป็นพลังงานไฟฟ้าอาจยังเป็นเรื่องที่ซับซ้อน
ยกตัวอย่าง มีบริษัทลูกค้ารายหนึ่งที่กำลังเปลี่ยนจากเตาอบก๊าซเป็นเตาอบไฟฟ้า พบว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น
- ความสามารถของระบบจ่ายไฟฟ้าขององค์กร ในการรองรับโหลดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงหากต้องมีการอัปเกรด จะสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่ล้าสมัยได้หรือไม่
- กระบวนการผลิตต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับพลังงานไฟฟ้าหรือไม่ มีผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างไร
เพื่อให้การใช้พลังงานไฟฟ้ามีประสิทธิภาพ ธุรกิจต้องเริ่มจาก การตรวจสอบระบบไฟฟ้า เพื่อลดความเสี่ยง และควรพิจารณาทางเลือกเสริม เช่น โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (Microgrids) หรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน
2. การทรานส์ฟอร์มสู่ระบบดิจิทัล ระบบสมองของอุตสาหกรรม
หากการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นกระดูกสันหลังของอุตสาหกรรม การทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลก็เปรียบเสมือนสมองที่ช่วยขับเคลื่อนระบบทั้งหมด ดังนั้นการใช้เซ็นเซอร์อัจฉริยะเพื่อเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงต้องอาศัยแนวทางที่ครอบคลุมทั้งระบบภายในองค์กร
หลายองค์กรอาจเลือกลงทุนระยะสั้น ในโซลูชั่นที่ให้ผลลัพธ์เร็ว แต่แนวทางนี้อาจทำให้เกิด ต้นทุนแฝงทั้งด้านเทคโนโลยีและกระบวนการในอนาคต ในทางกลับกัน โรงงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมัก ลงทุนในกระบวนการและบุคลากรมากกว่าการลงทุนในเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวถึง 4 เท่า
การผลิตและบรรจุภัณฑ์
เพราะการเลือกใช้โซลูชั่นในระบบดิจิทัลที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น ระบบอัตโนมัติในการผลิต การบริหารสินทรัพย์ การจัดสรรทรัพยากร หรือการควบคุมคุณภาพอาหาร ต้องเริ่มจาก ความเข้าใจในกระบวนการทำงานและการสื่อสารระหว่างบุคลากร ก่อน
เมื่อให้ความสำคัญกับกระบวนการและบุคลากรเป็นอันดับแรก ผู้ผลิต CPG จะสามารถ เร่งการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกลุ่มพนักงานหน้างาน ขยายขีดความสามารถในการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น และ กระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมในการค้นหาแนวทางการใช้งานใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเช่น Hochwald Foods ซึ่งเป็นหนึ่งในสหกรณ์ผลิตนมรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ได้นำระบบดิจิทัลแบบครบวงจรมาใช้เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างการปฏิบัติงานในโรงงานกับฝ่ายบริหาร สิ่งนี้ช่วยให้สามารถ ติดตามทุกอย่างได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่ระบบรักษาความปลอดภัยทางเข้าโรงงาน ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต
นอกจากนี้ เมื่อมี โครงสร้างเทคโนโลยีที่เหมาะสมและระบบข้อมูลแม่นยำ ธุรกิจสามารถปลดล็อกศักยภาพของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อจัดการงานที่ต้องทำซ้ำๆ คาดการณ์ปัญหาล่วงหน้า และปรับปรุงการควบคุมดูแล ทำให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีมูลค่าสูงกว่า
กลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มด้วยระบบดิจิทัลที่บูรณาการเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับพนักงานและการปรับปรุงกระบวนการ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ปรับการใช้ทรัพยากรให้เหมาะสม สร้างความสามารถในการขยายธุรกิจ และเสริมความยืดหยุ่น พร้อมสร้างมูลค่าในระยะยาว
ที่มาข้อมูล อ่านบทความทั้งหมดได้ที่ : https://www.salika.co/2025/04/17/sustainable-consumer-packaged-goods/