เมื่อโรคระบาดสอนให้ผู้คนสนใจสุขภาพ เทรนด์การท่องเที่ยวก็พร้อมเปลี่ยนผ่านจากเดิมเช่นกัน
จากที่ผู้คนมาพักผ่อนเฉย ๆ ไหนลองหยิบเรื่องสุขภาพเข้ามาเพิ่มด้วย เช่น ไปอาบน้ำแร่ ทำโยคะบนพื้นทราย ทริปดีท็อกซ์ขจัดของเสีย และอีกหลากหลายกิจกรรม
ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว และพร้อมหยุ่นรับสถานการณ์เหล่านี้
เพื่อเป็นการตอบรับกับเทรนด์ปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้จะเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการได้
- บริการด้านสุขภาพด้านใด จะเอามาใช้กับธุรกิจได้บ้าง เช่น ทางโรงแรม อาจมีบริการ เสิร์ฟอาหารตามชีวจิต คอร์สดีท็อกซ์
- ติดตามเทรนด์ Wellness ณ ปัจจุบัน เพื่อเอามาปรับให้เข้ากับเอกลักษณ์ของตน
เช่น ผู้คนให้ความสำคัญกับกลิ่นของห้องนอนที่ผ่อนคลาย ธุรกิจโรงแรม อาจเสนอ
กลิ่นให้ลูกค้าเลือกใช้ในห้องที่จะเข้าพัก และปรับได้ตามความเหมาะสม
- ทำแบบสอบถาม พูดคุยกับลูกค้าโดยตรง
- จัดบริการ Wellness แบบเสร็จสมบูรณ์ ให้คลุมตั้งแต่เรื่องสุขภาพไปจนถึงอาหารการกิน
เช่น ทำแพ็คเกจให้ลูกค้า สำหรับโรงแรม ช่วงเช้ามีบริการสปา นวดกดจุด หลังจากนั้นพาไปกินอาหารเบา ๆ สบายท้อง ช่วงเย็น มีโยคะริมทะเล และก่อนนอน บริการเทียนหอมบำบัด เปิดเสียงธรรมชาติผ่อนคลาย
ถึงแม้ Wellness Tourism จะเปลี่ยนเทรนด์การท่องเที่ยว และชวนคนใส่ใจสุขภาพ แต่อีกอย่างที่
ผู้ประกอบการ ไม่ควรลืมคือ ความสนุก ความท้าทาย ความแปลกใหม่ พร้อมกับตัวเลือกที่หลากหลาย ให้เหล่าผู้มาใช้บริการได้เอนจอยกับทริปที่เขาตัดสินใจมาแล้ว